วิธีลดพุง หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการวิธีลดพุงที่มีประสิทธิภาพมากและเห็นผลจริงแล้วละก็ เราอยากบอกว่า เราได้เอาวิธีลดพุงดังกล่าวมาฝากกัน ซึ่งบอกได้เลยว่า เป็นวิธีลดพุงที่มีประสิทธิภาพและเห็นผลเป็นอย่างมากแน่นอน แต่ทว่า คุณก็จะต้องทำตามวิธีการที่เราได้แนะนำอย่างเคร่งครัดเช่นเดียวกัน ซึ่งรับรองได้เลยว่า พุงยื่นๆ ของคุณ จะหายไปอย่างแน่นอน เพราะนี้คือวิธีลดพุงที่ได้ผ่านการทดลองทำมาแล้วจากหลายๆ คน ดังนั้น ถ้าคุณคิดจะลดพุงแล้วละก็ อย่าได้รอช้า มาดูวิธีลดพุงที่มีประสิทธิภาพและเห็นผลแบบชัวร์ที่สุดและดีที่สุด 6 วิธีกันเลยดีกว่า
6 วิธีลดพุง
1. เลิกรับประทานเครื่องดื่มหรืออาหารที่มีน้ำตาล
ในบรรดาผู้ที่ออกกำลังกายและดูแลรักษาหุ่นนั้น ต่างก็รู้ดีกันว่า “น้ำตาล” คือหนึ่งในตัวแปรที่สำคัญเป็นอย่างมากในการทำให้เกิดพุง ซึ่งเมื่อรู้ว่ามันคือตัวแปรสำคัญที่ทำให้เกิดพุง ก็ควรเลิกรับประทานน้ำตาลไปเสียเลย ก็จะช่วยให้คุณสามารถลดพุงได้แบบเห็นผลชัวร์ๆ
แต่ถ้าใครที่ยังต้องการความหวานอยู่ ก็ให้เลือกใช้น้ำตาลเทียม หรือสารให้ความหวานที่ไม่มีพลังงาน หรือ ถ้าใครเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็ให้เลือกรับประทานเครื่องดื่มและอาหารที่มีน้ำตาลให้น้อยที่สุด บอกได้เลยว่า เพียงแค่เลิกหรือลดการได้รับน้ำตาลในแต่ละวันลง ก็ช่วยให้คุณสามารถลดพุงได้อย่างแน่นอน แต่ก็ต้องใช้เวลาอยู่เช่นกัน ไม่ใช่ว่าจะลดได้ภายใน 1-2 วัน
2. ลดปริมาณของคาร์โบไฮเดรตลงให้น้อยกว่าเดิม
เป็นที่รู้กันว่า น้ำตาล ก็คือคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่ง การเลิกหรือลดน้ำตาลนั้น สามารถช่วยลดพุงได้อย่างแน่นอน แต่ในความเป็นจริงแล้ว คาร์โบไฮเดรต ก็เป็นอีกตัวแปรหนึ่งที่ทำให้เกิดพุงเช่นเดียวกัน
แต่ทว่า จะเลิกรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตไปเลยไม่ได้เป็นอันขาด เพราะคาร์โบไฮเดรต ถือว่าเป็นสารอาหารที่เป็นพลังงานหลักของร่างกาย หากขาดคาร์โบไฮเดรต ร่างกายจะได้รับผลกระทบอย่างมากมาย เช่น เวลาที่คุณอดข้าว คุณจะรู้สึกมึนๆ ไม่มีเรี่ยวแรง คิดอะไรไม่ออก เป็นต้น
เพราะฉะนั้น คุณจะต้องรับประทานคาร์โบไฮเดรตอยู่ แต่ให้รับประทานคาร์โบไฮเดรตให้น้อยลง และเลือกรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยช้าๆ เช่น ข้าว โดยเฉพาะข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี ซึ่งถ้าโดยปกติคุณรับประทาน 5-7 ทัพพีต่อมื้อ ก็ให้ลดเหลือ 2-4 ทัพพีต่อมื้อ แค่นี้ก็จะช่วยให้คุณลดพุงได้แล้ว และไม่มีภาวะผิดปกติจากการขาดคาร์โบไฮเดรตด้วย
3. รับประทานอาหารที่มีไขมันให้น้อยที่สุด
อาหารแทบทุกอย่างนั้น ล้วนแล้วแต่ใช้ไขมันหรือน้ำมันเป็นส่วนประกอบในการทำทั้งสิ้น เราอาจจะคิดว่า ไม่ได้มากมายอะไร แต่เมื่อรวมกันแล้ว มันก็มากอยู่เหมือน ไหนจะมีพวกไขมันสัตว์อีก ยิ่งทำให้มากเข้าไปใหญ่ ที่บอกว่าให้ลดไขมันนั้น ก็เพราะว่า ไขมันให้พลังงานที่มากกว่าคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนถึง 2 เท่า หากเราได้รับไขมันไปเท่าๆ กับที่เราได้รับโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต พลังงานจะมากขนาดไหน
ในหนึ่งวันนั้น ร่างกายเราใช้พลังงานแค่ 2,000 กิโลแคลอรี่โดยประมาณ แต่ถ้าเราได้รับพลังงานมากกว่านั้น แล้วพลังงานที่เหลือจะไปอยู่ไหน คำตอบคือ ไปสะสมไว้นั้นเอง และส่วนที่มักมีการสะสมไขมันมากที่สุดก็คือ พุง ดังนั้น หากต้องการลดพุง ก็ให้รับประทานไขมันให้น้อยที่สุด โดยการหลีกเลี่ยงอาหารประเภททอด ผัด แกงกะทิ และต้มที่มีไขมันมากๆ
บอกได้เลยว่า หากคุณทำเช่นนี้ ก็จะช่วยให้คุณลดพุงได้มากเลยทีเดียว และให้จำไว้ว่า ให้ลด ไม่ใช่เลิก เพราะไขมันก็ยังมีผลต่อการทำงานของวิตามินบางชนิด เช่น A D และ K เป็นต้น
4. กินทีละน้อยๆ หรือ ซอยให้เป็นหลายๆ มื้อ
หนึ่งในวิธีลดพุงที่ได้ประสิทธิภาพไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว ก็คือ การรับประทานในแต่ละมื้อให้น้อยลง โดยถ้าเรารับประทานน้อยลงในแต่ละมื้อ กะเพาะก็จะไม่ขยายตัวมาก ทำให้มื้อต่อๆ ไป เราจะอิ่มได้เร็วขึ้น โดยในช่วงแรกอาจจะยากลำบากหน่อย แต่ผ่านไปไม่กี่วัน คุณก็จะปรับตัวได้
แต่ถ้ากินน้อยแล้วรู้สึกว่า หิว ไม่มีเรี่ยวแรง ก็ให้ซอยเป็นหลายๆ มื้อแทน เช่น ให้รับประทานทุกๆ 2 ชั่วโมง แต่ว่า รับประทานให้น้อยในแต่ละมื้อ หรือแค่ให้ไม่รู้สึกหิวพอ เช่น 8 โมง อาจรับประทานข้าวต้ม 10 โมง รับประทานกล้วยซัก 1 ผล เที่ยง รับประทานข้าวประทานข้าวปกติแต่น้อยหน่อย บ่าย 2 รับประทานผลไม้อย่างเช่น ส้ม 1-2 ผล และ 4 หรือ 5 โมงเย็น รับประทานอาหารแคลอรี่ต่ำๆ อีกมื้อ ก่อนนอนรับประทานนมซัก 1 กล่อง แบบนี้ เป็นต้น แค่นี้ก็ช่วยให้คุณลดการขยายตัวของกะเพราะและช่วยให้ลดพุงได้แล้ว
5. พักผ่อนให้เพียงพอทุกวัน
การพักผ่อนให้เพียงพอนั้น จะทำให้ร่างกายทำงานได้ค่อนข้างปกติ การกิน ก็จะเป็นปกติเช่นกัน ดังนั้น คุณควรนอน 7-8 ชั่วโมงต่อวันเป็นอย่างน้อย และควรเป็นการหลับแบบต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้ร่างกายคุณทำงานได้อย่างเป็นปกติอย่างมาก และยังช่วยลดความหิวและปริมาณในการกินแต่ละมื้อได้ด้วย นอกจากนี้ การพักผ่อนให้เพียงพอ ยังช่วยได้ในอีกหลายๆ อย่างที่มีผลต่อการลดพุงอีกด้วย
6. ออกกำลังกายที่เน้นกระชับพุงและคาร์ดิโอ
การออกกำลังกายนั้นจะช่วยให้เราสามารถลดพุงได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการออกกำลังกายที่เน้นกระชับเฉพาะส่วน หรือการออกกำลังกายที่ช่วยกระชับพุง เช่น การซิทอัพ หรือการออกกำลังด้วยท่าทางต่างๆ ที่ทำให้กล้ามเนื้อท้องเกิดการเกร่งตัว ก็จะช่วยทำให้เราสามารถกระชับบริเวณพุงได้เป็นอย่างดี
นอกจากการออกกำลังกายที่เน้นกระชับพุงแล้ว การออกกำลังกายแบบที่เรียกว่า การคาร์ดิโอ ก็สามารถช่วยลดพุงได้เป็นอย่างดีเช่นกัน นั้นก็เพราะว่า การคาร์ดิโอ จะทำให้ร่างกายทำการดึงไขมันของร่างกายมาใช้นั้นเอง จึงทำให้เราสามารถลดไขมันได้ทั้งร่างกายและเมื่อออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอไปซักระยะ ก็จะเห็นได้เลยว่า มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นที่พุงอย่างเห็นได้ชัด หรือ พุงยุบลงไปนั้นเอง ซึ่งส่วนที่ลดลงไปก็คือ ไขมันที่สะสมอยู่บริเวณพุง ทั้งในส่วนที่เป็นไขมันใต้ผิวหนังและไขมันในช่องท้อง
การคาร์ดิโอ เป็นการออกกำลังแบบต่อเนื่องโดยไม่หยุด ซึ่งเราแนะนำให้คาร์ดิโอประมาณ 25-30 นาที ก็เพียงพอแล้ว เพราะหากคาร์ดิโอมากเกินไป ก็อาจจะทำให้คุณเกิดความหิวได้มากขึ้น ซึ่งส่งผลทำให้คุณไม่สามารถที่จะควบคุมปริมาณในการกินแต่ละมื้อได้ หรือทำได้ยากนั้นเอง
อีกอย่างเกี่ยวกับคาร์ดิโอที่เราอยากแนะนำก็คือ ให้คุณทำการคาร์ดิโอแบบเบาๆ เช่น การเดิน การปั่นจักรยาน หรือการใช้เครื่องออกกำลังอื่นๆ แบบต่อเนื่องแทน ไม่ควรคาร์ดิโอที่ทำให้เหนื่อยมากเกินไป เพราะการที่เราเหนื่อยมากเกินไป นั้นหมายความว่า ร่างกายกำลังดึงคาร์โบไฮเดรตมาใช้ แต่การออกกำลังกายที่เหนื่อยแบบพอประมาณหรือแบบเบาๆ ร่างกายจะดึงไขมันมาใช้มากกว่า และอีกอย่าง เมื่อเราเหนื่อยไม่มาก เราก็จะสามารถควบคุมการกินได้ง่ายขึ้น ทำให้เรากินในแต่ละมื้อไม่มากเกินไปด้วย
วิธีลดพุง ที่เราได้กล่าวมานั้น บอกได้เลยว่า เป็นวิธีลดพุงที่มีประสิทธิภาพและเห็นผลชัวร์อย่างแน่นอน แต่ทว่า ก็ต้องใช้เวลาพอสมควร ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นได้ภายในไม่กี่วัน อย่างน้อยๆ จะเริ่มเห็นผลบ้างก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยๆ 1 สัปดาห์ แต่ถ้าผ่านไป 2-3 เดือน หากคุณทำตามวิธีลดพุงที่ได้แนะนำไป บอกได้เลยว่า เห็นผลชัดเจนแน่นอน และถ้าใครอยากได้กล้ามท้องหรือซิกแพคแบบชัดๆ ก็ให้ทำต่อเนื่องแบบนี้ไปเรื่อยๆ รับรองได้เลยว่า ได้เห็นซิกแพคแบบสวยๆ ที่หน้าท้องแทนพุงอย่างอย่างแน่นอน หวังว่าวิธีลดพุงที่แนะนำไปจะมีประโยชน์กับคุณ ^_^