Categories
Uncategorized

อาการของโรคมะเร็งปากมดลูก ที่ผู้หญิงทุกคนควรรู้ก่อนที่จะสายเกินไป

เราเชื่อเหลือเกินว่า หากคุณมีความรู้เกี่ยวกับ “อาการของโรคมะเร็งปากมดลูก” มันก็จะทำให้คุณได้รู้ว่า คุณนั้นเป็นมะเร็งปากมดลูกหรือไม่ ? ซึ่งถ้าคุณรู้หรือสงสัยว่าตัวคุณเป็นแล้วละก็ คุณก็จะได้ไปพบหมอและตรวจให้ชัดเจนว่าเป็นหรือไม่เป็น ซึ่งถ้าไม่เป็นก็ดีไป แต่ถ้าเป็น คุณก็จะสามารถรักษาได้อย่างทันท่วงที ซึ่งแน่นอนว่า มันจะช่วยให้คุณสามารถรักษาชีวิตของคุณได้ เพราะฉะนั้น เราจึงได้เอาความรู้เกี่ยวกับ ลักษณะหรืออาการของโรคมะเร็งปากมดลูก มาฝากกัน

อาการของโรคมะเร็งปากมดลูกระยะแรก

เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า ร่างกายของเรา ได้รับเชื้อที่ทำให้เป็นมะเร็งปากมดลูกแล้วหรือไม่ ถ้าเราไม่ทำการตรวจ เนื่องจากว่า มะเร็งปากมดลูกนั้นจะเริ่มแสดงอาการก็ต่อเมื่อผ่านไปแล้ว 5-10 ปี ซึ่งหมายความว่า ในช่วงแรกนั้น มะเร็งปากมดลูกจะไม่แสดงอาการใดๆ ออกมาทั้งสิ้น ดังนั้น ผู้หญิงส่วนใหญ่จะไม่มีทางรู้เลยว่า ตัวเองนั้นเป็นมะเร็งปากมดลูกหรือไม่ หากไม่ทำการตรวจร่างกาย เพราะฉะนั้น เราอยากแนะนำให้ผู้หญิงทุกคน หมั่นตรวจสุขภาพประจำปีอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ทั้งนี้ หากพบว่า มีการติดเชื้อ ก็จะได้สามารถรักษาได้อย่างทันท่วงที

อาการของโรคมะเร็งปากมดลูกระยะที่ 2

สำหรับระยะที่ 2 นี้ จะเป็นช่วงที่มะเร็งปากมดลูกเริ่มออกอาการ โดยอาจจะมีการตกขาวผิดปกติ มีกลิ่นเหม็น มีเลือดปน หรือมีการตกขาวในปริมาณที่มาก หรือ อาจอยู่เฉยๆ ก็มีเลือดออก หรือมีเลือดออกหลังการมีเพศสัมพันธ์ ส่วนในผู้หญิงที่อยู่ในวัยที่หมดประจำเดือนแล้ว 6 เดือนหรือเป็นปี แล้วกลับมามีเลือดประจำเดือนใหม่และออกนานกว่าปกติ ซึ่งถ้าพบว่า มีการอาการเหล่านี้แล้วละก็ จะต้องรีบไปพบหมอและทำการตรวจวินิจฉัยโดยด่วน

อาการของโรคมะเร็งปากมดลูกระยะสุดท้าย

ระยะสุดท้าย คือ ระยะที่มะเร็งเริ่มลุกลามแล้ว ก็จะมีอาการที่ค่อนข้างเด่นชัดอยู่หลายอย่างด้วยกัน อาทิ ปวดท้องน้อย ปวดหลัง ก้นกบ ต้นขา ปัสสาวะและอุจจาระเป็นเลือก ขาบวม และอาจเกิดอาการภาวะไตวาย หากก้อนมะเร็งไปปิดกั้นหรือเกิดการอุดตันในบริเวณทางเดินปัสสาวะ

มะเร็งปากมดลูก ถือได้ว่าเป็นมะเร็งที่มีความน่ากลัวไม่ใช่น้อย ดังนั้น จึงควรหมั่นตรวจร่างกายประจำปีอยู่เสมอ ซึ่งก็จะสามารถช่วยให้รักษาได้ทันท่วงที หรือถ้าไม่ได้ตรวจริงๆ แล้วพบว่า มีอาการต่างๆ ที่ใกล้เคียงกับ “อาการของโรคมะเร็งปากมดลูก” ก็ควรรีบไปหาหมอเพื่อตรวจวิฉัยและรักษาทันที อย่าปล่อยปละละเลยไม่สนใจเป็นอันขาด เพราะแน่นอนว่า ผลลัพธ์ที่ตามมานั้น ไม่ใช่เรื่องที่ใครๆ อยากจะให้เกิดขึ้นกับตนเองหรือคนใกล้เคียงอย่างแน่นอน




ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *